สำหรับสาวกของ apple จำเป็นต้องมี apple id เพราะถ้าไม่เรามีก็จะไม่สามารถใช้งานบริการต่างๆของ Apple ได้ เช่นการโหลดแอพใน Apple Store, การซิงค์ข้อมูลต่างๆ , การฝากไฟล์ต่างๆ โดยเฉพาะไฟล์งาน รวมไปถึงการซิงค์เอาข้อมูลจาก Mac ของเรา ไปยังบริการ iClound ของ Apple ก็ทำไม่ได้อย่างแน่นอน แต่สำหรับใครที่มี apple id อยู่แล้วก็สามารถเข้าถึงบริการนี้ได้อย่างสบายๆ
บริการหลักๆ ของ iCloud เมื่อก่อนนั้นก็จะเป็นการฝากไฟล์เป็นส่วนใหญ่ ชผู้ใช้ทั่วไปก็จะได้รับบริการนี้แต่ก็จะถูกจำกัดไว้ที่ความจุไม่เกิน 5GB ส่วนคนที่มีปริมาณข้อมูลที่ต้องการฝากมากกว่านั้น ก็สามารถเพิ่มพื้นที่เก็บไฟล์จาก iClond ได้ครับ ซึ่งบริการนี้เองจะมีค่าบริการนะครับ ส่วนราคานั้นเป็นรายเดือนครับ ราคาน่ารักๆ ไม่แพงมาก ใครที่อยากมีที่เก็บงานแบบหยิบ Device ไหนขึ้นมาก็มีไฟล์งานของเราพร้อมให้เราได้ทำงานแบบไม่สะดุดเมื่อเปลี่ยน Device หรือการที่ทุกเครื่องของเรามีข้อมูลเหมือนกันไม่ต้องโยนไฟล์ไปมาให้วุ่นวาย ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราถ่ายรูปจาก iPhone ก็สามารถแต่งและโพสจาก Mac หรือ iPad ก็สามารถทำได้อย่างต่อเนื่อง
ยิ่งตอนนี้ก็มี Apple One ที่รวมเอาทั้ง ซีรีส์ต่างๆจาก Apple Tv+ เกมจาก Apple Arcade เพลงที่ฟังมหาศาลจากคลังเพลง Appple Music รวมถึงรวมบริการ iClound ที่เป็นที่เก็บไฟล์ชั้นดีของเหล่าบรรดาสาวก iOS นั่นนอกจากนี้ iCloud ยังอาจจะช่วยตามหา, ล็อคเครื่องที่หายไปได้ง่ายดาย ส่วนจะเป็นอย่างไรนั้น จิ้มอ่านต่อตรงนี้เลยครับ >>> Macbook หายอย่าตกใจ ใช้ Find My ค้นหาก่อนสูญถาวร
มาเข้าเรื่องกันดีกว่าครับ ตั้งแต่มีการเปิดตัว iCloud กันขึ้นมาใน วันที่ 12 ตุลาคม 2011 ซึ่งภายในอาทิตย์เดียวเท่านั้น iCloud มีผู้ใช้งานสูงถึง 20 ล้านไอดี จนในปี 2018 ก็มีผู้ใช้ประมาณ 850 ล้านคน จนบัดนี้ก็น่าจะมีผู้เป็นพันล้านบัญชีเลยคับ เอาเป็นว่าบริการนี้อำนวยความสะดวกเยอะเลยที่เดียวเพราะที่ผ่านมาไม่ว่าจะมีการเปลี่ยนเครื่องอีกกี่ครั้งเราก็สามารถย้ายเอาข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น รายชื่อผู้ติดต่อ, รูปภาพ ,รหัสลับต่างๆ รวมถึงข้อมูลอื่นๆ ที่มีการใช้งาน Apple Device ตลอดระยะเวลาการใช้งานของเรา สรุปง่ายๆ เปลี่ยนเครื่องเมื่อไหร่แค่ Login iCloud ข้อมูลก็ถูกบรรจุลงในเครื่องเราเรียบร้อยแล้ว แต่ใครรู้บ้าง ว่านอกจากเรื่องการเข้าใช้งานและการจัดเก็บข้อมูลแล้ว iCloud ทำอะไรได้อีกบ้าง
แต่ก่อนที่เราจะไปหาความจริงจากเรื่องนี้ ต้องบอกเลยว่าได้มีการให้ความหมายของ iCloud จาก Apple ที่ได้นิยามไว้ว่า
iCloud นั้นคือการจัดเก็บรูปภาพ วิดีโอ เอกสาร เพลง แอพ และอื่นๆ ให้คุณอย่างปลอดภัย และอัพเดทให้เป็นข้อมูลล่าสุดอยู่เสมอบนอุปกรณ์ทุกเครื่องของคุณแบบ เรียวไทม์กันเลยทีเดียว และยังช่วยให้คุณสามารถแชร์รูปภาพ ปฏิทิน ตำแหน่งที่ตั้ง และข้อมูลอื่นๆ กับเพื่อนและครอบครัวได้ อีกทั้งคุณยังสามารถใช้ iCloud เพื่อช่วยค้นหาอุปกรณ์ของคุณในกรณีที่สูญหายได้
และนี่คือข้อมูลจากเรื่องราวที่ Apple ได้บอกเล่าให้เราไว้คลายสงสัยกันเล่นๆ กับบริการนี้จาก Apple แต่ในบทความนี้ Krichhouse.com ได้ค้นคว้ากันอย่างหนักเพื่อให้ทุกท่านได้รู้กันเลยว่า iCloud ทำอะไรได้บ้าง แต่ในฐานะที่มีความคุ้นเคยกับอุปกรณ์ของ Apple มาหลายรุ่นเลยก็ว่าได้ สรุปเป็นหัวข้อย่อยๆว่า iCloud นั้นทำอะไรได้บ้างตามนี้เลยครับ
- อีเมลของ iCloud
- ข้อมูล Message
- ข้อมูลรายชื่อผู้ติดต่อ (Contacts) ในเครื่องทั้งหมด เช่น ชื่อ เบอร์โทรศัพท์
- ข้อมูลในปฏิทิน
- ข้อมูลใน Reminder
- ข้อมูลใน Note
- ข้อมูลการใช้งานใน Safari ทั้งหมด เช่นประวัติการใช้งานเว็บ, bookmark ต่างๆ
- ไฟล์เอกสารจากในบางแอพ โดยเฉพาะ File เหมือนเป็นที่ฝากงานกันเลยทีเดียว
- รูปภาพและวีดีโอ
- บันทึกข้อมูลเกมที่เราเล่น (เฉพาะเกมที่รองรับ)
- ช่วยจำรหัสที่เราใช้งาน iCloud Keychain (เก็บไอดีผู้ใช้และรหัสผ่านที่เราใช้งานจากที่ต่างๆ)
- ค้นหา Apple Device ในกรณีที่สูญหาย ที่มีชื่อว่า Find My
นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อกับเหล่าบรรดา Apple Device ของเราให้ผสานการทำงานร่วมกันให้ได้ง่ายกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็น Apple Watch ที่รับสายและดูข้อมูลสุขภาพของเราได้จาก iPhone หรือ Airpod ที่เพียงเสียบหูแล้วหยิบเครื่องไหนที่ลงชื่อเข้าใช้ในบัญชี iCloud ก็ฟังเพลงได้ทันทีนอกจากนั้น การรับสายได้จากอุปกรณ์ต่างๆ ก็เพิ่มความสะดวกสบายมากครับ เมื่อมีสายเข้าจาก iPhone ก็สามารถรับสายจากอุปกรณ์ใกล้เคียงในเครือข่ายไวไฟเดียวกันได้ นอกจากนี้ถ้ามีสายเข้าหรือ ข้อความรวมไปถึง iMessage ก็ไม่พลาดทุกการแจ้งเตือน ง่ายๆคือ ใกล้เครื่องไหนก็ใช้เครื่องนั้น แม้แต่จะรับสายจาก Mac รุ่นไหนๆก็ทำได้อย่างสบาย
ตั้งแต่การประกาศถึง iCloud ในงาน Apple Worldwide Developers Conference (WWDC) เมื่อ วันที่ 6 มิถุนายน 2011 ก็มีการพัฒนาแบบก้าวกระโดดในทุกปีเพื่อสาวกของ Apple ได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดของการใช้งานผลิตภัณฑ์ของ Apple กันเลยทีเดียวครับ ส่วนใครที่ไม่เคยใช้งาน Apple Device มาก่อน Krichhouse.com ก็มีหลากหลายประสบการณ์การใช้งานที่รอให้ทุกท่านมาสัมผัสกันได้ครับ ในราคาที่สัมผัสง่ายกว่าการใช้ซื้อมือ 1 ครับ